วิชาคณิตศาสตร์ คือวิชาที่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่ชอบเรียน หลายเสียงบอกว่าเป็นเพราะเข้าใจยาก และสับสนกับตัวเลข แต่ในปัจจุบันวิธีการคิดคำนวณถูกพัฒนาให้เข้าใจ และนำมาใช้ได้หลายรูปแบบมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในวิธีการคิดคำนวณแบบรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยพัฒนาสมองได้ด้วย ก็คือ วิธีคิดจินตคณิต
วิธีคิดจินตคณิต คือการใช้จินตนาการในการคิดคำนวณจำนวนเลขต่าง ๆ ด้วยการสมมุติเป็นภาพลูกคิด ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นการผสมผสานสมองทั้ง 2 ซีก ให้ใช้ควบคู่กันไป โดยสมองซีกซ้าย ที่ถูกแยกให้เป็นสมองซีกที่ใช้คิดวิเคราะห์ หรือเรียกได้ว่า เป็นสมองซีกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้คิดคำนวณตัวเลข จะถูกใช้ควบคู่ไปกับ สมองซีกขวา หรือสมองซีกแห่งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยวิธีการง่าย ๆ นั่นคือ การใช้สมองซีกขวาจินตนาการภาพลูกคิด และใช้สมองซีกซ้ายคำนวณตัวเลขจากลูกคิดในจินตนาการนั้น ด้วยความมีสมาธิ
ซึ่ง วิธีคิดจินตคณิต เป็นวิธีการที่ทำให้ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนแล้ว สามารถคิดเลขได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคิดเลข เพราะวิธีการใช้จินตคณิตในการคำนวณนั้น คือการฝึกสมาธิ และฝึกให้สมองได้เรียบเรียงลำดับความคิดนั่นเอง
ทั้งนี้ วิธีคิดจินตคณิต พัฒนามาจากลูกคิดของจีน มาเป็นลูกคิดแบบญี่ปุ่น ที่มีลูกคิด 5 ลูก อยู่เหนือเส้นแบ่ง 1 ลูก มีลูกคิด 1 ใต้เส้นแบ่ง 4 ลูก และใช้วิธีการคิดคำนวณในแบบเลขคู่ 5 และ เลขคู่ 10 ซึ่งชาวญี่ปุ่นได้หยิบยกเอาลูกคิดมาพัฒนาให้เป็นจินตคณิต และแพร่หลายในปี 1994 ในประเทศ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมัน แคนาดา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งในประเทศมาเลเซียนั้นถึงขนาดประกาศว่า เด็กทุกคนจะต้องได้เรียนวิชาจินตคณิตเลยทีเดียว
หากมีการเริ่มต้นพัฒนา วิธีคิดจินตคณิต ตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 7-12 ปี จะทำให้สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญการคำนวณแบบจินตคณิตได้ แต่ทั้งนี้สมาธิคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฝึกฝน และควบคุมจิตใจ ให้แน่วแน่อยู่กับการจินตนาการ ซึ่งหากสมาธิแตกเมื่อไหร่ ความสามารถก็จะลดลง ซึ่งเด็ก ๆ ที่กำลังใช้สมาธิกับจินตคณิต มักมีอาการในการคิดคำนวณที่ต่างกันออกไป บางคนขยับนิ้ว บางคนนั่งโยกตัวตามจังหวะของลูกคิด แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
โดย นายกวิชช์ ไตรวงศ์ไพศาล ผู้คิดค้นหลักสูตรวิธีคิดจินตคณิตในประเทศไทย กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว เด็ก ๆ ที่ผ่านการฝึกฝนคิดเลขด้วยวิธีคิดจินตคณิต จะไม่รู้สึกว่าอัศจรรย์ที่คิดเลขได้เร็วขนาดนั้น เพราะเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันก็สามารถทำได้ แต่เด็ก ๆ จะรู้สึกสนุก ที่ได้ใช้สมองไปกับจินตนาการ
วิธีคิดจินตคณิต นับว่าเป็นประโยชน์มาก ที่จะช่วยทำให้สมองทั้งสองซีกมีการพัฒนาไปควบคู่กัน และเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสมองไปในด้านอื่น ๆ เพราะนอกจากจะฝึกให้มีสมาธิ มีประโยชน์ในการคิดแล้ว ยังทำให้ผู้ที่คิดแบบจินตคณิตได้รับความสนุกเพลิดเพลินด้วย . . .
วิธีคิดจินตคณิต คือการใช้จินตนาการในการคิดคำนวณจำนวนเลขต่าง ๆ ด้วยการสมมุติเป็นภาพลูกคิด ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นการผสมผสานสมองทั้ง 2 ซีก ให้ใช้ควบคู่กันไป โดยสมองซีกซ้าย ที่ถูกแยกให้เป็นสมองซีกที่ใช้คิดวิเคราะห์ หรือเรียกได้ว่า เป็นสมองซีกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการใช้คิดคำนวณตัวเลข จะถูกใช้ควบคู่ไปกับ สมองซีกขวา หรือสมองซีกแห่งจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยวิธีการง่าย ๆ นั่นคือ การใช้สมองซีกขวาจินตนาการภาพลูกคิด และใช้สมองซีกซ้ายคำนวณตัวเลขจากลูกคิดในจินตนาการนั้น ด้วยความมีสมาธิ
ซึ่ง วิธีคิดจินตคณิต เป็นวิธีการที่ทำให้ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนแล้ว สามารถคิดเลขได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องคิดเลข เพราะวิธีการใช้จินตคณิตในการคำนวณนั้น คือการฝึกสมาธิ และฝึกให้สมองได้เรียบเรียงลำดับความคิดนั่นเอง
ทั้งนี้ วิธีคิดจินตคณิต พัฒนามาจากลูกคิดของจีน มาเป็นลูกคิดแบบญี่ปุ่น ที่มีลูกคิด 5 ลูก อยู่เหนือเส้นแบ่ง 1 ลูก มีลูกคิด 1 ใต้เส้นแบ่ง 4 ลูก และใช้วิธีการคิดคำนวณในแบบเลขคู่ 5 และ เลขคู่ 10 ซึ่งชาวญี่ปุ่นได้หยิบยกเอาลูกคิดมาพัฒนาให้เป็นจินตคณิต และแพร่หลายในปี 1994 ในประเทศ จีน ญี่ปุ่น อเมริกา เยอรมัน แคนาดา มาเลเซีย สิงคโปร์ ฯลฯ ซึ่งในประเทศมาเลเซียนั้นถึงขนาดประกาศว่า เด็กทุกคนจะต้องได้เรียนวิชาจินตคณิตเลยทีเดียว
หากมีการเริ่มต้นพัฒนา วิธีคิดจินตคณิต ตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 7-12 ปี จะทำให้สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญการคำนวณแบบจินตคณิตได้ แต่ทั้งนี้สมาธิคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการฝึกฝน และควบคุมจิตใจ ให้แน่วแน่อยู่กับการจินตนาการ ซึ่งหากสมาธิแตกเมื่อไหร่ ความสามารถก็จะลดลง ซึ่งเด็ก ๆ ที่กำลังใช้สมาธิกับจินตคณิต มักมีอาการในการคิดคำนวณที่ต่างกันออกไป บางคนขยับนิ้ว บางคนนั่งโยกตัวตามจังหวะของลูกคิด แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคน
โดย นายกวิชช์ ไตรวงศ์ไพศาล ผู้คิดค้นหลักสูตรวิธีคิดจินตคณิตในประเทศไทย กล่าวว่า จริง ๆ แล้ว เด็ก ๆ ที่ผ่านการฝึกฝนคิดเลขด้วยวิธีคิดจินตคณิต จะไม่รู้สึกว่าอัศจรรย์ที่คิดเลขได้เร็วขนาดนั้น เพราะเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันก็สามารถทำได้ แต่เด็ก ๆ จะรู้สึกสนุก ที่ได้ใช้สมองไปกับจินตนาการ
วิธีคิดจินตคณิต นับว่าเป็นประโยชน์มาก ที่จะช่วยทำให้สมองทั้งสองซีกมีการพัฒนาไปควบคู่กัน และเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาสมองไปในด้านอื่น ๆ เพราะนอกจากจะฝึกให้มีสมาธิ มีประโยชน์ในการคิดแล้ว ยังทำให้ผู้ที่คิดแบบจินตคณิตได้รับความสนุกเพลิดเพลินด้วย . . .
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
- bestmomclub
- nujiw.com
- udomwittayanukul.net
อ้างอิง : http://education.kapook.com/view16794.html
ที่มาจาก : http://www.zazana.com/Article/id7434.aspx
- bestmomclub
- nujiw.com
- udomwittayanukul.net
อ้างอิง : http://education.kapook.com/view16794.html
ที่มาจาก : http://www.zazana.com/Article/id7434.aspx
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น